ในโลกที่ยุคสมัยนิยมการใช้สื่อโชเชียลในการติดต่อสื่อสารกัน การแสดงความคิดเห็นหรือแม้แต่ระบายความในใจ และอวดความร่ำรวยให้คนอื่นได้รับรู้ ซึ่งสิ่งที่เราโพสต์ลงไปในโลกอินเตอร์เน็ตมักจะมีแก๊งมิจฉาชีพคอยจับจ้องหาข้อมูลส่วนตัว ถูก โจรกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เราต้องระวังเอาไว้ให้มากๆ

ที่เป็นแบบนี้เพราะมิจฉาชีพ จะนำข้อมูลเพื่อนำไปหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองได้ทั้งสิ้น หลายครั้งที่เราจะได้อ่านเจอข่าว หรือฟังข่าวจากทางทีวีว่า เงินในบัญชีหายไปทั้งที่ไม่ได้มีการกดเงินออกมาใช้ หรือก่อนหน้านี้ที่มีข่าวโด่งดังมากเรื่องการใช้สกิมเมอร์เพื่อดูดข้อมูลของเรา

รวมถึงกรณีที่มีการใช้เงินของเราจากบัตรเครดิตโดยไปรูดใช้งานที่ต่างประเทศ หรือแม้แต่รูดซื้อของออนไลน์ทั้งที่เราเองไม่ได้เป็นคนใช้งาน ซึ่งการที่จะสามารถขโมยเงินจากบัตร ATM หรือบัตรเครดิตของเราไปใช้งานได้

พวกมิจฉาชีพจะต้องรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าเขาเอาข้อมูลส่วนตัวของเรามาจากไหน ใช่ค่ะ เขานำข้อมูลส่วนตัวของเรามาจากสิ่งที่เราโพสต์ลงไปในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางเฟสบุ๊ก  อินสตาร์แกรม อีเมลล์ หรือแม้แต่ทวิตเตอร์

ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถถูกแฮ็กจากเหล่ามิจฉาชีพได้ทั้งสิ้นดังนั้นเรามาดูกันว่า สิ่งไหนบ้างที่เราไม่ควรโพสต์ลงบนสื่อโซเชียวต่างๆ

1. บัตรประชาชน  ส่วนนี้คือส่วนที่สำคัญมาก เพราะบัตรประชาชนจะบอกข้อมูลส่วนตัวของเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขทีบัตรประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน วันเดือนปีเกิด หากมีแค่ข้อมูลบัตรประชาชนของเรา พวกมิจฉาชีพก็สามารถทำอะไรแทนเราได้ทั้งหมดเลยค่ะ
2. ใบขับขี่ สำหรับใบขับขี่มีความสำคัญมากไม่ต่างจากบัตรประชาชนเลย เพราะมีข้อมูลส่วนตัวของเราครบถ้วนเหมือนกับที่บัตรประชาชนมี ซึ่งเราจะเห็นว่าหากเราไปธุระกรรมที่ไหนก็แล้วแต่หากเราลืมนำบัตรประชาชนมาเราสามารถใช้ใบขับขี่แทนได้นั่นก็เพราะว่ามีข้อมูลส่วนตัวของเราเหมือนกัน
3. หนังสือเดินทาง ความสำคัญก็ไม่แพ้จากบัตรประชาชนและใบขับขี่เลย เพราะหากมีหนังสือเดินทางเราก็สามารถใช้หนังสือเดินทางทำธุระกรรมแทนทั้งบัตรประชาชนและใบขับขี่ได้ เพราะมีข้อมูลส่วนตัวของเราครบถ้วน
4. สถานที่เช็คอิน ที่ระบุว่าเราจอดรถไว้ที่ไหน เพราะพวกที่จะขโมยรถมักจะหาข้อมูลจากจุดที่เราเช็คอินเอาไว้แล้วมาขโมยรถ เช่นคนที่ชอบเช็คอินที่บ้าน พวกขโมยจะรู้ทันทีว่าบ้านเราอยู่ไหนและตามมาขโมยรถเราได้
5. ป้ายทะเบียนรถ เพราะข้อมูลป้ายทะเบียนรถ สามารถทำการเช็คได้ว่าใครเป็นเจ้าของและพวกแก๊งมิจฉาชีพก็จะสามารถหาข้อมูลอื่นๆเพิ่มได้
6. ป้ายภาษีรถยนต์

สนับสนุนโดย  ufabet